วันพุธ, ตุลาคม 4, 2023
ข่าวเด็ดออนไลน์
ชลบุรีพัทยาสังคมสัตหีบ

ดีเดย์ 2 ก.ย.นี้ ปูพรม บูรณาทุกภาคส่วน ตึงกำลังเจ้าหน้าที่ สางปัญหาเรือสปีดโบ๊ทเที่ยวเกาะล้านตัดราคา แย้งลูกค้า ท่าเรือแหลมบาลีฮาย กู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวพัทยา

จากกรณีที่กลุ่มผู้ประกอบการเรือได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกัน เมื่อวันที่ 26-27 สิงหาคม 2566 บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ สาเหตุเกิดจากการแย่งลูกค้ากันและตกลงราคาเรือกันไม่ได้ รวมทั้งปัญหาความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยที่เกิดขึ้นบริเวณชายหาดในเขตเมืองพัทยา สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และขัดต่อความสงบเรียบร้อย ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ เสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมือง พัทยาเป็นอย่างยิ่งนั้น

ล่าสุดวันนี้ (31 ส.ค.66) นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานการประชุมจัดเรียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ โดยมี พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา  นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา  นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่เทศกิจ สมาชิกสภาเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหา

โดยในที่ประชุมนายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา ได้มีการชี้แจงการให้ประกอบกิจการการเดินเรือในอ่าวพัทยา ว่า เมืองพัทยามีอำนาจในการบริหารจัดการสถานีขนส่งทางน้ำ ท่าเทียบเรือรวมถึงพื้นที่โดยรอบท่าเทียบเรือ โดยมีอำนาจการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ต่างๆ รวมถึงมีอำนาจที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการใดเข้าไปประกอบกิจการบริเวรท่าเทียบเรือได้ ส่วนการแก้ไขปัญหากลุ่มเรือสปีดโบ๊ทเที่ยวเกาะล้านที่มีการแย้งลุกค้าตัดราคากันนั้น ควรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการเรือ และแจ้งให้เมืองพัทยาทราบถึงการเข้าไปใช้ท่าเทียบเรือและพื้นที่รอบ ๆท่าเทียบเรือ เพื่อให้ทราบจำนวนเรือ และผู้ประกอบการที่ใช้ท่าเทียบอย่างแท้จริงว่ามีทั้งหมดกี่ราย และทำทะเบียนบัญชีทะเบียนประวัติ เพื่อควบคุมกำกับดูแล ในกรณีเกิดมีการฝ่าฝืนก่อความเดือดร้อนลำคาญจะได้ยกเลิกการประกอบกิจการและไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ท่าเทียบเรือได้ ทั้งนี้เรือมีประเภทตามกฎหมายชัดเจนตามกฎหมายการเดินเรือคือเรือบรรทุกผู้โดยสาร เพียงแต่มีการนำไปประกอบการเท่านั้นและมีการไปแยกกันเองว่าเป็นเรือเหมา เรือทัวร์ ซึ่งตามกฎหมายแล้วไม่มี การจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องดำเนินการอย่างจริงจังตามกำฆมายไม่ต้องเกรงใจใครปัญหาจึงจะไม่เกิดขึ้นอีก หากยังปล่อยทิ้งไว้ปัญหาก็จะเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องคนกระทำความผิดก็กลุ่มคนเดิม ๆ ฉะนั้นจะต้องมีการจำกัดสิทธิ โดยเมืองพัทยาอาศัยอำนาจที่มีดำเนินการ ซึ่งปัจจุบันมีเรือสปีดโบ๊ทในพื้นที่อ่าวพัทยาจำนวน 1,200 ลำ และมีผู้ประกอลการเรือนำเที่ยวบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายประมาณ 10 ราย

ด้านพ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา  กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมบังคับใช้กฎหมายและบูรณาการกำลังลงพื้นที่ในการจัดระเบียบและสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบหาข้อมูลและจะมีการจัดทำประวัติเด็กเรือ เพื่อเป็นการป้องปราบการกระทำความผิด แต่ถูกผู้ประกอบการนำหลักสิทธิมนุษย์ชนมาเป็นข้ออ้างในการจัดทำประวัติจึงไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้อยากให้ทุกภาคส่วนมีการบูรณาการกำลังในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ด้วยพื้นที่ดังกล่าวมีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายแต่ละบริบทปัญหา ทางสภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว ตรวจตม. พร้อมที่จะบุรณาการอย่างสุดกำลัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวต่อไป

ขณะนี้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากนี้เมืองพัทยาจะหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการบริหารจัดการท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายและพื้นที่โดยรอบ ร่วมกับผอ.เจ้าท่าพัทยา เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถาวรและเป็นรูปธรรม ตามอำนาจหน้าที่ของเมืองพัทยาที่มี ซึ่งหาดเมืองพัทยาออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบเรือสปีดบีทใช้ท่าเรือแล้ว เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น เมืองพัทยาจะได้มีการลงโทษตามข้อกำหนดที่ไว้วางกับผู้ประกอบการเรือ

ทั้งนี้นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง ได้กล่าวข้อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาปีดโบ๊ทเที่ยวเกาะล้านตัดราคา แย้งลูกค้า ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ว่า สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นจะมีการเชิญผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ทมาร่วมประชุมพร้อมรับฟังความคิดเห็น รวมถึงขอเสนอแนะของผู้ประกอบการในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้การประกอบกิจการร่วมกันบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายได้อย่างสงบ อีกทั้งในวันที่ 2 กันยายนนี้ ทุกภาคส่วนได้มีการบูรณาการร่วมกันในการจัดชุดสายตรวจลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์กับผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ทว่าการเรียกเชียร์แขกลงเรือบนท้องถนนนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษ พร้อมทั้งนี้จะการติดป้ายประชาสัมพันธ์โทษความผิดฐานสร้างความเดือดร้อนลำคาญตามจุดต่าง ๆทั่วท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องปราบและจัดระเบียนในเบื้อต้น  ส่วนการจะนำมาตราการบทลงโทษต่าง ๆที่มาใช้กับผู้ประกอบการนั้นด้วยเมืองพัทยาเป้นเมืองท่องเที่ยว ผู้ประกอบการก็อยากประกอบอาชีพหารายได้ หลังต้องประสบปัญหาจากพิษโควิด-19 แต่เมื่อการประกอบอาชีพร่วมกันแล้วเกิดความไม่เข้าใจกันมีการแย้งลุกค้ากัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะต้องเข้าไปจัดระเบียบ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยมากขึ้น เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวต่อไป…..