วันจันทร์, ตุลาคม 27, 2025
ชลบุรีพัทยาสัตหีบอาชญากรรม

ตำรวจพัทยา ปิดเกมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบ 3 บัญชีม้า คาห้างดัง ยึดเงินสด 4.5 แสน-พบมือถือซ่อนรูปตำรวจไว้ส่องกันโดนล่า แต่สุดท้ายไม่รอด

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 15.50 น. ตำรวจชุด ศปชก.สภ.เมืองพัทยา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา และชุดสืบสวนหลายหน่วย บุกจับเครือข่าย “บัญชีม้า” ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพัทยาใต้ ห้างบิ๊กซีพัทยาใต้ หลังได้รับการประสานจาก War Room ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และฝ่าย Financial Crime ธนาคารไทยพาณิชย์

โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย 1.น.ส.พิไลวรรณ (ใหม่) อายุ 37 ปี ชาวเพชรบูรณ์ 2.น.ส.วราภรณ์ (อุ้ม) อายุ 32 ปี ชาวชลบุรี 3.นายวันชนะ (มีน) อายุ 20 ปี ชาวนครราชสีมา ของกลางที่พบ ได้แก่ สมุดบัญชี 4 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินสด 450,000 บาท

สำหรับพฤติการณ์ น.ส.พิไลวรรณ รับว่าเป็น “บัญชีม้า” ถอนเงินสดครั้งแรก 333,000 บาท ส่งต่อหญิงไทยลักษณะทอม ขับรถโตโยต้า สีเทาดำ ป้ายแดง ก 2162 ชลบุรี ได้ค่าจ้าง 13,000 บาท ครั้งที่สอง ถอนเงิน 450,000 บาท ก่อนถูกจับกุม ส่วน น.ส.วราภรณ์ ทำหน้าที่ควบคุมการเบิกถอน เชื่อมโยงกับเครือข่ายชาวจีน ขณะที่ นายวันชนะ เป็นคนขับรถและจัดหาบัญชีม้า รับค่าจ้างวันละ 5,000 บาท ทำมาแล้วกว่า 3 เดือน

การสืบสวนยังพบว่า เมื่อ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวันชนะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการถอนเงิน 498,000 บาท จากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเดียวกัน โดยผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา ตำรวจพบว่ามีการ บันทึกรูปภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ไว้ในเครื่อง คาดว่าเพื่อใช้สอดส่องและระวังตัว เนื่องจากพักหลังๆ ตำรวจพัทยาเดินหน้ากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้าแบบรายวัน จนผู้ต้องหามีความระมัดระวังมากขึ้น

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1 เปิดบัญชีให้ผู้อื่นใช้เพื่อก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และร่วมกันเป็นสมาชิกอั้งยี่ ผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 จัดหาหรือโฆษณาซื้อขายบัญชีม้า และร่วมกันเป็นสมาชิกอั้งยี่ เบื้องต้น น.ส.พิไลวรรณ รับสารภาพ ส่วนอีก 2 คนให้การปฏิเสธ

อย่างไรก็ดี ตำรวจเร่งขยายผลเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการ โดยเฉพาะ หญิงไทยลักษณะทอม ผู้รับเงินปลายทาง และเครือข่ายชาวจีน พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังเพื่อสาวถึงต้นตอเครือข่าย.