“ป๊อก-วิทยา” นำทัพ ผู้สมัคร ส.อบจ.ชลบุรี ปราศรัยใหญ่ ชูนโยบาย 4 D ต่อยอด ต่อเนื่อง เพื่อเมืองชล หวัง 40 เก้าอี้ ของเรารักชลบุรี ไปด้วยกันแบบยกทีม ตอกย้ำความเป็นหนึ่งเดียวไม่เคยฮั้วกับใคร แล้วฝากไปถึงคู่แข่งที่ปราศรัยด้วยการโจมตีว่าเป็นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ และ“ลูกพี่ไม่สั่งสอน”
วันนี้ (30 มกราคม 2568) ณ บริเวณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม ผู้สมัครนายก อบจ.ชลบุรี ในนามทีม “เรารักชลบุรี” นำ ผู้สมัคร ส.อบจ.ชลบุรี ทีมเรารักชลบุรี ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ แนะนำตัว และ ประกาศนโยบายส่งท้าย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้

บรรยากาศบนเวทีมีการแนะนำตัวผู้สมัครทั้ง 40 เขต โดยส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.อบจ.เดิมที่สังกัดทีมเรารักชลบุรีมาก่อน ขณะที่ผู้ฟังปราศรัยซึ่งเดินทางมาจากทุกอำเภอของจังหวัดชลบุรีได้ทยอยเข้าพื้นที่จนเกินความจุของเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ คาดว่าน่าจะมีราวๆ 5,000 คน



โดยนายวิทยา คุณปลื้ม ปราศรัย ว่า การเมืองท้องถิ่นไม่เหมือนการเมืองใหญ่ การเลือกตั้งจึงไม่ควรไปตามกระแส เพราะท้องถิ่นต้องมีความใกล้ชิด มีความผูกพัน เข้าถึงบ้านรับฟังปัญหาเพื่อช่วยเหลือ แก้ไขได้ทันท่วงที ซึ่งราวๆ 6 เดือนที่ผ่านมา พรรคการเมืองหนึ่ง อยู่ๆก็มี ส.อบจ.ลาออกทั้งๆที่ อีก 2 เดือน ก็จะเข้าเกณฑ์ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่แล้ว แต่ลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัคร ส.อบจ.เขตนั้นได้เข้ามา เพื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนหากต้องลงแข่ง นายก อบจ. แข่งกับตนเอง อย่างไรก็ตามประชาชนในพื้นที่ก็ได้ให้บทเรียน ด้วยการลงคะแนนให้กับ เรารักชลบุรี แต่ อบจ.ก็ต้องสูญเสียงบประมาณในการจัดการเลือกตั้ง เกือบ 3 ล้านบาท



จึงขอให้พี่น้องประชาชนทบทวน ว่าจะเลือกตั้งเพราะกระแส หรือ คนที่มีความสามารถ คนทำงานได้ หากต้องการผู้แทนที่มีความผูกพัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาให้ชลบุรีเป็นเมืองอันดับหนึ่งของประเทศด้วยกัน เรารักชลบุรีจะทำงานอย่างสร้างสรรค์ ที่ผ่านมาทำงานภายใต้ทีมเรารักชลบุรีมาโดยตลอด และมีการพูดว่า มีดิวลับ ฮั้วกัน ระหว่างผม ซึ่งตัวผมเป็นคนที่พูดคุยได้ทุกคน ไม่ปิดกั้น เราทำงานด้วยกันได้ แต่บอกตรงนี้ ไม่มีการฮั้ว หรือ ดิวลับใดๆ เพราะผมมีทีมเรารักชลบุรี ที่อยู่ด้วยกัน 40 คนตรงนี้เท่านั้น



คนกลุ่มนี้มักจะเล่นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ มี ตัวแทนอยู่ 3 คน ที่พูดไปด่าไปตลอด หลายครั้งที่ขึ้นเวทีแล้ว ด่า พอไปถามลูกพี่ของเขา ก็บอกว่า ไม่รู้เรื่องเขาทำของเขาเอง ซึ่งนายวิทยากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเป็นคนไม่เคยว่าใคร แต่ครั้งนี้ขอเรียกว่า “ลูกพี่ไม่สั่งสอน” นี่คงเป็นการว่าที่แสบสุดของวิทยาแล้ว
“ยืนยันที่ผ่านมาทำงานด้วยหลักธรรมาภิบาล บริหารงบประมาณอย่างคุ้มค่า และทำงานอย่างสร้างสรรค์ และมุ่งมั่นที่ทำชลบุรีให้เป็น อบจ. อันดับหนึ่ง ด้วยการให้ชลบุรีเป็นมหานครของคนทุกเจน”


จากนั้นนายวิทยาจึงได้พูดถึงนโยบาย 4 D ที่ประกอบไปด้วย เศรษฐกิจดี สิ่งแวดล้อมดี การศึกษาดี และสุขภาพดี
ดีที่ 1 ต้องทำให้ทุกคนมีเศรษฐกิจที่ดี ด้วยการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เกิดการลงทุนการจ้างงาน จึงต้องส่งเสริมทุกกลุ่มอาชีพ เพื่อเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ชลบุรีเป็นเมืองเศรษฐกิจดีทุกคนมีเงินใช้
ดีที่ 2 คือการศึกษา ที่ผ่านมา อบจ.ใช้งบประมาณเพื่อการศึกษามากที่สุดอันดับหนึ่งของประเทศ เพราะประเทศจะพัฒนา การศึกษาต้องมีคุณภาพ การศึกษาเป็นมรดก การศึกษาดีต้องทำต่อเนื่องเพื่อให้ลูกของเรามีการศึกษาที่ดี


ดีที่ 3 สุขภาพดี สุขภาพเป็นหัวใจสำคัญ โรงพยาบาลต้องมีความพร้อม เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย รวมถึง รพ.สต. และ อสม. ที่จะเข้าถึงชุมชนได้มากขึ้น
และ ดีที่ 4 สิ่งแวดล้อม สร้าง วอร์ลูม ศูนย์คอนโทรล ที่จะดูในเรื่อง สมาร์ทซิตี้ ฝุ่นควัน ที่สามารถวัดได้ละเอียดและครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น อะไรที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ อบจ. จะทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้สิ่งแวดล้อมดี ให้คนชลบุรีมีคุณภาพชีวิตที่ดี


นอกจากนั้น นายวิทยา กล่าวสรุปอีกว่า ชลบุรีต้องเป็นเมืองที่มีความพร้อมในทุกๆด้าน เป็นเมืองที่มีนักลงทุนมาเพิ่มขึ้น การท่องเที่ยว และกีฬาเป็นอันดับ 1 มีการกระจายรายได้ สู่ชุมชน รวมถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น และความหลากหลาย…

