ป้าจูงมือลูกสาวป่วยออทิสติก เหยื่อดิไอคอนกรุ๊ป ลงทุนสมัครดีลเลอร์กว่า 2 แสนบาท หวังเงินปันผลไว้ดูแลลูก ซัดเวรกรรมมันติดจรวด บอสพอลสมควรได้รับมัน
ตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ประชุมสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 (บช.ภาค) จัดตั้งศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดี The Icon Group ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับแจ้งความของผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด โดยไม่ต้องเดินทางมายัง บช.ก.
18 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจบรรยากาศการร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบว่าตั้งแต่เปิดรับแจ้ง จนถึงวันนี้ทางตำรวจได้รับคดี และสอบปากคำผู้เสียหายมากกว่า 20 รายแล้ว โดยหลังจากการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนส่งมอบให้ บช.ก. เพื่อไปดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมาย
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 61 ปี อาชีพแม่บ้าน หนึ่งในเหยื่อดิไอคอนกรุ๊ป ที่วันนี้ได้จูงมือลูกสาวป่วยออทิสติกเข้าแจ้งความ ระบุว่า เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เธอได้เห็นในรายการหนึ่งของของสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง เป็นชีวิตของบอสพอลจากเด็กยากจนสู่เส้นทาง มหาเศรษฐี ด้วยธุรกิจขายของออนไลน์
ภายในรายการมีการพูดถึงเรื่องเปิดรับสมัครคอร์สออนไลน์ 97 บาท สอนการขายออนไลน์ ด้วยความที่มีอายุมาก และอยากมีธุรกิจส่วนตัว จึงโทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่ขึ้นโชว์ในรายการทีวี เพื่อคุยรายละเอียด หลังจากนั้นเธอก็โอนเงินสมัครเรียน ก่อนทางบริษัทจะส่งลิ้งค์เข้าอบรมผ่านระบบซูม เพราะว่าช่วงนั้นเป็นโควิด ไม่สามารถรวมตัวไปนั่งประชุมได้
โดยเธอระบุด้วยอีกว่า ภายในการสอนมีการเล่าเรื่องประวัติชีวิตของบอสแต่ละคนที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไร จนสู่ประสบความสำเร็จร่ำรวยด้วยธุรกิจขายของออนไลน์ จังหวะนั้นจึงเอาเงินเก็บ จำนวนกว่า 200,000 บาท ไปลงทุนสมัครเป็นดีลเลอร์ เพื่อต้องการเงินปันผลค่าตอบแทนเอามาเลี้ยงลูกที่ป่วยเป็นออทิสติก ซึ่งแม่ทีมเหมือนรู้จุดอ่อนว่าลูกป่วยออทิสติก
ได้อุบายพูดจาหว่านล้อม ว่าเงินปันผลที่ได้สามารถเลี้ยงลูกได้สบาย ซึ่งจะมีรายได้ตั้งแต่หลักหมื่น จนไปถึงหลักแสน แต่พอหลังจากสมัครไปได้สินค้ามาเพื่อให้จำหน่าย แต่ก่อนที่จะจัดจำหน่ายตัวเธอได้เบิกของมาทดลองใช้ก่อนว่าสินค้ามันดีจริงหรือไม่ พอลองใช้แล้วสินค้ามันก็ไม่ดีอย่างที่โฆษณา เธอเองก็ไม่กล้าเอาไปขาย จึงติดต่อไปหาแม่ทีมเพื่อเอาของคืน
ซึ่งเธอเองมองว่าเหมือนเป็นการหลอกลวง แต่ทางแม่ทีมบอกว่าไม่สามารถคืนของได้ มีวิธีเดียวคือหาลูกทีมมาสมัครหัวละ 2,500 บาท และกินเปอร์เซ็นต์จากการขายของลูกทีมเอา หลังเหตุการณ์นี้เธอเคยคิดจะไปร้องเรียน แต่ด้วยเป็นผู้หญิงที่อายุมากที่ต้องเลี้ยงลูกป่วยออทิสติก คงจะไม่มีพลังไปสู้กับกลุ่มนายทุนเหล่านั้น กระทั่งบอสพอลตกเป็นข่าว ซึ่งส่วนตัวมองว่าเวรกรรมสมัยนี้มันติดจรวด และอยากจะฝากคำพูดถึงบอสพอล ว่าพวกคุณไม่น่ามาสร้างความหวังให้คนอื่น ว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงแต่ที่จริงแล้วมันคือการหลอกลวง.