“หลวงพี่น้ำฝน” เจ้าอาวาสวัดดัง ชี้รับทัวร์จีนเป็นสิ่งดี แต่ต้องโปร่งใส
นายกหนองปรือนำกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องเจ้าอาวาสวัดบุญสัมพันธ์ แต่งตั้งคณะกรรมการวัดชุดใหม่ พร้อมเพิ่มไวยาวัจกรอีก 2 เพื่อความโปร่งใสการบริหารการเงินของวัด หลังปล่อยไวยาวัจกรคนเดิมดูแลเพียงลำพังจนตรวจสอบไม่ได้ พร้อมปฏิเสธไม่มีการจัดตั้งม็อบขับไล่เจ้าอาวาสตามข่าวลือ ด้าน “หลวงพี่น้ำฝน” เจ้าอาวาสวัดดังเดินทางเข้าประชุมร่วมคณะสงฆ์ ชี้รับทัวร์จีนเป็นสิ่งดีช่วยส่งเสริมให้วัดเจริญ แต่ขอบริหารจัดการด้านการเงินของวัดใหม่เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
จากกรณีความวุ่นวายที่เกิดในวัดบุญสัมพันธ์ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังจากนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือตบหน้าสมาชิกสภาเทศบาลเมือหนองปรือจรดังกระฉ่อนโลกออนไลน์ จนมีการแฉถึงขบวนการต้มตุ๋นนักท่องเที่ยวด้วยใช้พื้นที่วัดทำธุรกิจหลอกลวงนั้น
ล่าสุด วันนี้ (22 ต.ค.62) มีรายงานว่าชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เดินทางมายังวัดบุญสัมพันธ์ เพื่อเรียก ร้องให้การตั้งคณะกรรมการวัดอย่างเป็นรูปธรรม หลังจากที่ผ่านมามีการจัดตั้งคณะกรรมการวัดอย่างไม่โปร่ง ใส มีการนำเอาญาติพี่น้องมาทำมาหากินในวัดจนเกิดกรณีพิพาทต่างๆขึ้น
ต่อมา นายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังวัดบุญสัมพันธ์เพื่อพูดคุยกับชาวบ้าน ก่อนชี้แจงว่าที่ชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อขอให้ทางวัดมีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความเป็นธรรมในการบริหารวัดมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้มีการแต่งตั้งไวยาวัจกรที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยดูแลกิจการวัดจาก 1 เป็น 3 คน ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาวัดไปอย่างถูกทิศทาง ส่วนไวยาวัจกรคนเดิมนั้นก็สามารถดำรงตำแหน่งอยู่ได้ ส่วนเจ้าอาวาสก็ยังคงทำหน้าที่ตามปกติ ตามที่มีกระแสข่าวชาวบ้านจะขับไล่เจ้าอาวาสนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
สำหรับบรรยากาศภายในวัดวันนี้พบว่าแตกต่างจากวันปกติที่เคยมีความคึกคักจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีรถทัวร์นักท่องเที่ยวมาจอดจนเต็มวัดอย่างที่ผ่านมา ส่วนร้านค้าที่เคยเปิดบริการเครื่องดื่มก็พากันปิดร้านตาม ๆ กันไปด้วย
กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 4 ชม.เจ้าอาวาสซึ่งเดินทางไปประชุมร่วมกับคณะสภาสงฆ์จังหวัดชลบุรี ที่วัดหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ยังไม่เดินทางกลับมาวัดตามที่นัดหมายกับชาวบ้านไว้ ด้านนายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ จึงเปิดเผยว่าวันนี้เวลา 14.00 น. ได้มีการนัดหมายกับเจ้าอาวาสวัดและชาวบ้านให้มาร่วมรับฟังแนวทางการบริหารวัด หลังจากพบว่าปัจจุบันมีความขัดแย้ง ไม่โปร่งใส ไวยาวัจกรคนเดียวจัดการทั้งหมดในวัด เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการบริหารวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ตามที่ชาว บ้านได้เรียกร้องคือให้มีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่จำนวน 5 คน และไวยาวัจกรเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน และจะมีการพูดคุยในเรื่องการกำหนดเขตพื้นที่ภายในวัดด้วยการทำความเข้าใจกับบริษัททัวร์ เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยให้พื้นที่วัดเป็นพื้นที่ของพุทธศาสนิกชนทุกคน ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถมาวัดได้โดยสะ ดวก และร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ไม่มีการแบ่งแยกจนเป็นปัญหา
ทั้งนี้เนื่องด้วยวันนี้ที่วัดหนองปรือมีการประชุมเจ้าอาวาสในเขตอำเภอบางละมุง ซึ่งตนเองจะได้เข้าไปพูดคุยรายละเอียดกับทางเจ้าคณะอำเภอตามลำดับถัดไป เพื่อหาแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เพราะถ้ายืดเยื้อกันต่อไปปัญหาก็ไม่จบ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ ยังเผยด้วยว่า ที่ผ่านมาการบริหารเงินวัดมีการทำบัญชีคนเดียว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งของวัดและของส่วนตัวของไวยาวัจกรก็เบิกใช้อยู่คนเดียว ไม่มีความโปร่งใส ไวยาวัจกรเองก็ไม่มีธุรกิจอะไรนอกจากวงดนตรีปี่พาทย์เพียงเท่านั้น
ในส่วนที่ฝ่ายไวยาวัจกรจะดำเนินคดีอะไรกับตนเองนั้นก็ว่ากันไปตามขั้นตอน ว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งไม่รู้สึกหนักใจอะไร เพราะไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว วัดแห่งนี้อยู่มา 40 ปี ตนเองเคยเป็นไวยาวัจกรมา 30 ปี เมื่อมีเงินก็จะให้ธนาคารมาเอาไปไม่เคยแตะต้องเงินวัด แต่ไวยาวัจกรคนนี้ดูแลเงินวัดเองคนเดียวเบิกจ่ายอะไรก็ไม่มีบิลชี้แจงจนชาวบ้านมาร้องเรียนกับเทศบาลเป็นจำนวนมาก จนในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้นดังกล่าว
มีรายงานว่าต่อมา “หลวงพี่น้ำฝน” หรือพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม พร้อมเจ้าอาวาสวัดบุญสัมพันธ์ได้เดินทางกลับมายังวัดฯก่อนจะประชุมร่วมกับนายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศ มนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ และกลุ่มชาวบ้าน โดยชี้แจงว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่วัดบุญสัมพันธ์นั้น เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ตนเองในฐานะที่สนิทกับเจ้าวาสองค์ปัจจุบันและในฐานะที่ปรึกษาก็จะเข้ามาช่วยในการแก้ไข โดยจะเข้ามาช่วยเหลือในการดูและและบริหารจัดการเรื่องทัวร์จีน และการบริหารการเงินทั้งหมด โดยให้ไวยาวัจกรคนเดิมยุติบทบาทและเลิกยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปได้อย่างถูกต้องและโปร่งใส จาก นั้นก็จะเรียกประชุมร่วมกับทางเทศบาลและชาวบ้านเพื่อจัดตั้งไวยาวัจกรเพิ่ม หรือคณะกรรมการวัดเพิ่มเพื่อเข้าตรวจสอบ จริงแล้วการมีทัวร์จีนเข้ามาเยี่ยมชมศาสนสถานก็ไม่ถือว่าผิดอะไร ดีเสียอีกที่จะทำให้วัดมีปัจจัยนำมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพียงแต่ทุกขั้นตอนต้องถูกต้อง โปร่งใส และให้วัดเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งไม่ไปรบกวนหรือสร้างความเคลือบแคลงใจแก่พุทธศาสนิกชนด้วย ซึ่งจากนี้ไปก็จะเริ่มดำเนินทันทีจนกว่าทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งกรณีดังกล่าวทุกฝ่ายต่างเห็นชอบด้วยและพากันเดินทางกลับก่อนจะมีการนัดประ ชุมร่วมเพื่อจัดตั้งคณะกรรการเข้ามาตรวจสอบและบริหารงานร่วมอีกครั้ง…