วันพฤหัสบดี, เมษายน 18, 2024
ข่าวเด็ดออนไลน์
การเมืองข่าวด่วนชลบุรีพัทยาสังคมสัตหีบ

เปิดใจ “สนธยา คุณปลื้ม”กระแสข่าวเรื่องการสังกัดพรรคการเมืองของ คุณอิทธิพล คุณปลื้ม ฐานะตัวแทนพี่น้องในครอบครัว ก็ได้อธิบายถึงทิศทางอย่างชัดเจน ณ วันนี้และอนาคต

วันนี้ทางผู้ดำเนินรายการ “เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์” ได้ประสานขอสัมภาษณ์ผม เกี่ยวกับกระแสข่าวเรื่องการสังกัดพรรคการเมืองของ คุณอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งผมในฐานะผู้ถือธงนำ ทีมผู้สมัครพรรคเพื่อไทย จังหวัดชลบุรี และในฐานะตัวแทนพี่น้องในครอบครัว ก็ได้อธิบายถึงทิศทางอย่างชัดเจน ณ วันนี้และอนาคต

ผู้ดำเนินรายการ : ข่าวที่ระบุว่าคุณ อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปกับอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติจริงหรือไม่?

ไม่จริง ข่าวที่ออกมา ข่าวเขียนว่า แหล่งข่าว รายงานข่าวจากรวมไทยสร้างชาติ แล้วคิดว่าแหล่งข่าว รายงานข่าว กับเรื่องจริง ข้อเท็จจริง อย่างที่ผมกำลังพูดนี้ กับเรื่องนิทานจะเชื่อใคร แล้วก็ส่วนหนึ่งคือ เห็นอยู่แล้วว่าพรรคที่เอ่ยถึง เป็นในส่วนของพรรคคู่แข่งทางการเมือง ซึ่งตอนนี้ก็แข่งกันทุกพรรค ทางเราก็ถือเป็นคู่แข่งเป็นเป้าหมายหนึ่งเหมือนกัน อยากให้ดูว่าแหล่งข่าวกับการถามผมตรงๆแบบนี้ มันย่อมมีที่มาที่ไปที่ชัดเจน…มันไม่จริงแน่นอนเรื่องนี้

แล้วไม่จริงเพราะอะไร อยากฟังเรื่องจริงหรือไม่ คือ ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องของครอบครัว ที่บอกว่าครอบครัวแยกกันคนละทาง เรียนว่าครอบครัวเรานี่นะครับ ตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อถึงรุ่นเรา คุยกันตลอด มีการประชุมหารือกันทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องในบ้าน เรื่องการเมืองหรือเรื่องอะไร เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เราคุยกันพี่น้องวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองกันมาตลอด สุดท้ายเราก็มีความเห็นร่วมกันว่า เราไม่อยู่ที่เดิม แล้วก็มีการพูดคุยกันว่า เรามองการเมืองจะไปทางไหนอย่างไร สุดท้ายเราไปเพื่อไทย

หนึ่งมุมในสุดคือมุมของพี่น้อง สองคือในส่วนของการปรึกษาหารือทีมงาน ไม่ว่าระดับแกนนำ ระดับประชาชนหรือแม้แต่การสำรวจความเห็น นำมาพูดคุยกันอย่างนี้ สรุปว่าเราไปเพื่อไทย เรามีการพูดคุยกันอยู่ตลอด พอพูดคุยเสร็จแล้ว ก่อนปีใหม่ก็มาพูดคุยกันอีกครั้งวันที่ 30 ธันวาคม 2565 วันนั้นก็สรุปเหตุผลชัดเจนทุกอย่างว่า เราไปเพื่อไทย

แล้วไทม์ไลน์จะเป็นอย่างไร ก็มีการสรุปกัน ทางรัฐมนตรีอิทธิพลบอกว่า หลังปีใหม่ผมจะลาออก เพื่อให้พี่แป๊ะเปิดตัวได้อย่างเต็มที่ในการไปเพื่อไทย อันนี้ก็คือเป็นสิ่งที่เรามีการคุยกันก่อนปีใหม่ ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร

และหลังปีใหม่ ก็มีข่าวท่านรัฐมนตรีอิทธิพลก็ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 16 มกราคม 2566 ประมาณกลางเดือนมกราคม แล้วผมก็แถลงหรือให้ข่าวเปิดตัวครั้งแรกที่ผมพูดว่าไปเพื่อไทย 1,000 เปอร์เซนต์ คงจำกันได้เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566  แล้วเราก็ได้มีการพูดคุยกันอีก ในวันที่ 28 มกราคม 2566 ก็พูดคุยกันว่าแล้วตรงนี้เราจะเดินกันต่ออย่างไร ก็สรุปกันว่า โอเค ผมนำทีมถือธงพรรคเพื่อไทย นำทีมที่ชลบุรี และยังคงให้รัฐมนตรีอิทธิพล ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรมว.วัฒนธรรมต่อไป จนกว่าจะครบวาระหรือมีการเปลี่ยนแปลง อันนี้มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจนของพวกเรา โดยถ้าหากจะต้องไปปฏิบัติราชการกับท่านนายกรัฐมนตรีก็จะไปตามปกติ แต่ถ้าหากว่าจะต้องไปในทางการเมืองของท่านนายกรัฐมนตรีก็จะไม่ไป คือจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล และก็ทำหน้าที่รัฐมนตรีไปจนกว่าจะครบวาระ และรัฐมนตรีอิทธิพลก็จะไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด นี่ก็คือเราเป็นการให้เกียรติ ให้ความเคารพท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ทำงานร่วมกันมา อันนี้ก็คือวงในเราคุยกันเลย

วันนี้ผมในฐานะพี่คนโตก็บอกน้องว่า เดี๋ยวผมจะเป็นคนพูดเองในเรื่องต่างๆเหล่านี้ แล้วถ้าใครจะเสริม ใครจะให้สัมภาษณ์อะไร โดยเฉพาะรัฐมนตรีอิทธิพล ซึ่งถือว่า ณ วันนี้ เป็นตัวละครที่ถูกนำมาเล่น ก็จะมีการพูดคุยกัน อันนี้คือวงในในส่วนของเรา ถือว่าเป็นไทม์ไลน์ต่างๆ และมาจนถึงจุดนี้ เพราะฉะนั้นที่ออกมาในส่วนที่เป็น รายงานข่าว แหล่งข่าว ผมถึงบอกว่าเรื่องแบบนี้กับเรื่องนิทาน หรือว่าข้อเท็จจริงที่ฟังจากผมเวลาพูดมานี้ น้ำหนักเป็นอย่างไร ก็คงได้จะได้พิจารณากัน

ผู้ดำเนินรายการ : มีใครมาขอให้รัฐมนตรีอิทธิพลลาออกหรือไม่?

ไม่มี ทางเรามีการพูดคุยกัน คือมีแต่รัฐมนตรีอิทธิพล เค้าก็บอกเองว่าท่านนายกฯ และ พี่ตุ๋ย คือท่านพีระพันธุ์ (สาลีรัฐวิภาค) อยู่ด้วยกันอย่างนี้ทุกวัน ก็ยังชวนไปเลย เราคุยกันก็บอกเค้าไม่ไปไหน ครอบครัวเราจะไม่มีอยู่กันคนละพรรค

อย่างที่เรียนนะครับว่า บางครั้งเป็นการพูดคุยกันภายใน บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องออกมาพูด หรือออกมาเล่าให้ใครฟัง แต่การเมือง ณ วันนี้ โดยเฉพาะที่ชลบุรี มันเป็นการเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมา เขียนเป็นนิทานขึ้นมา เพื่อให้มันไม่ดี โดยนักการเมืองไม่ดี ผมไม่อยากใช้คำว่าเลวนะ เพราะว่ามันไม่ควรใช้ ผมคิดว่าการเมืองไม่ดีมากกว่า เพราะฉะนั้นเราเองก็มีจุดยืนของเรา เพราะฉะนั้นการที่เป็นข่าวและที่ขึ้นเป็นป้าย เป็นรูป ว่า รัฐมนตรีติ๊กพูดว่า “พ่อสอนไม่ให้เนรคุณคน ผมถึงไม่ทรยศลุงตู่” อันนี้ พวกเราก็ถามกันทุกคนพี่ๆน้องๆ อย่างที่เรียนไปว่า ไม่จริง ไม่ได้พูด ไม่ได้ทำ ก็เราคุยกันแล้ว อันนี้มันคือการเมืองช่วงนี้ มันเป็นการเมืองที่ไม่ดีเลย แต่เราก็ถือว่าเป็นการต่อสู้ทางการเมือง เค้าอาจคิดว่าการเมืองเนี่ยทำอะไรก็ได้ เพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อให้เข้าใจผิด เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทางการเมืองก็ทำไป แต่มันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเดินทางนี้อยู่แล้ว

ผู้ดำเนินรายการ : รู้ตัวใช่ไหมว่า ไอ้โม่งที่ไปขึ้นป้าย อิทธิพล คุณปลื้ม จะไปอยู่กับลุงตู่ รู้มือคนทำแล้วใช่หรือไม่?

ครับ คือผมคิดว่า คงต้องไปคิดกัน เพราะว่าคำนี้ ก็เห็นอยู่ว่าบางครั้งมันมาจากไหนอย่างไร แล้วก็ในส่วนตรงนี้การต่อสู้กันทางการเมืองมันมากันอย่างไร มันก็เป็นนิทานอีกเรื่องนึงนะ ถ้าสมมติว่าลองไปดูในวิกิพีเดียหรือพจนานุกรม คำว่านิทานเค้ามีคำจำกัดความว่าอะไร นิทานก็คือเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อให้มันดูเกินจริงต่างๆเหล่านี้….นิทานก็คือนิทาน เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง

ผู้ดำเนินรายการ : ถามตรงๆ 10 เขต พื้นที่เมืองชล จะได้กี่เขต ถ้าประเมินตามความเป็นจริง?

ผมไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนั้นเลยนะ ว่าจะแข่งกับใครอย่างไร ผมถือว่าในเรื่องของการลงแข่งขันทางการเมือง ก็คือการนำเสนอบุคคล นโยบาย ผลงาน แนวทางในการทำงานของเราให้กับประชาชนได้พิจารณา สมมติว่าเราเลือกแล้ว เรามาพรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน กับ 10 นโยบายปัจจุบัน กับนโยบายต่างๆที่จะออกมา แล้วนโยบายไหนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับชลบุรีหรือภาคตะวันออก ตรงนี้เรามาพูดกัน แล้วก็จะนำเสนอกันว่า ตัวบุคคลทั้ง 10 คนที่เราจะนำเสนอเป็นบุคคลที่สมควรได้รับความไว้วางใจเข้าไปเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรีหรือไม่ เป้าหมายของเราก็เสนอ 10 คน 10 เขต สู้เต็มที่ทั้งสิบคนสิบเขต……….